#รีวิวเกาหลี #รีวิวปูซาน 🇰🇷 ปูซานเดอะซีรีส์ยังไม่จบนะจ้ะ เพราะที่เที่ยวนางเยอะมากจริงๆ นี่เลยพาไปขึ้นกระเช้า ปีนบันได 168 ขั้นที่ปูซาน ไปกันมายัง คาเฟ่เพียบ ถ่ายรูปสวยมากๆๆ ที่นี่เป็นอีกที่เที่ยวที่แนะนำให้มาเมื่อมาปูซานเลยนะคะ ไม่ไกลจากปูซานสเตชั่น มีกระเช้ารถรางให้นั่ง บรรยากาศดีมากกก มากแบบมากก > ที่นี่เรียกว่า 168계단 หรือบันได 168 ขั้น> บันไดนี้คือใช้งานจริงๆนะ แต่ก่อนชาวบ้านที่อยู่บนเขาจะใช้บันไดนี้อะลงมาตักน้ำในบ่อน้ำข้างล่างเพื่อเอาไปใช้ในหมู่บ้านข้างบนเขา กราบเลยอะ เก่งมาก บันไดชันมากแค่เดินโลกยังเอียง นี่แบกน้ำกันด้วยเรอะ> อ่ะ ถ้าใครมาถึงแล้วแนะนำให้ถ่ายรูปกรุบกริบข้างล่างแล้วนั่ง Monorail ขึ้นเขาไปเลยจ้า (ฟรี!!)> Monorail คือน่ารักมาก นางจะแบบเป็นรถรางอันเล็กๆ นั่งได้สี่ห้าคนอะไรแบบนี้ แล้วคนดูแลจะเป็นอาจุมม่าใจดีๆ ที่เป็นอาสาสมัคร (คนในชุมชน) คอยบริการนักท่องเที่ยว เรานี่ซื้อขนมไปฝากแกเลย น่ารักมาก > พอขึ้นไปแล้วจะเจอกับจุดชมวิวก่อนเลย วิวดีมากๆ> ขึ้นเขามาก็มีร้านน่ารักๆเต็มไปหมด เป็นหมู่บ้านศิลปะ (หมู่บ้านโชรียัง) ที่คนไม่เยอะเท่ากัมชอน ค่อยๆเดินเก็บบรรยากาศไปคือดีมากจริงๆ> กิจกรรมที่แนะนำคือเช่าชุดนักเรียนย้อนยุคค่ะ !! ที่นี่จะสนับสนุนการท่องเที่ยวสุดๆ เพราะเค้ามีตึกจัดแสดงและโซนนิทรรศการที่มีชุดนักเรียนให้เช่าในราคา 1,000 วอน เท่านั่น !(29 บาท ) แต่ใส่ถ่ายเล่นได้แค่ไม่เกินครึ่งชั่วโมงเท่านั้นน้า สามารถปรึกษาอาจุมม่าที่ดูแลได้เลย เฟรนลี่มากๆ> หาคาเฟ่ชมวิวสักร้าน รับรองว่าไม่อยากกลับเลย >< การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน สถานี Busan ทางออก 7 เดินมาได้ประมาณ 10 นาที มีป้ายบอกตลอดทาง #wowkorea #globalwowkoreasupporters#wowkoreasupporters#globalwowkorea2019#visitkorea #busan#ktothailand #imagineyourkorea

#รีวิวเกาหลี #รีวิวปูซาน 🇰🇷 มาต่อจ้า ซีรีส์ปูซานแดนคนหล่อ อีกคาเฟ่ที่แนะนำม้ากกก คาเฟ่กลางเขา Choryang 1941 คือดีย์อีกแล้วแม่ ชิลมากกก  > คาเฟ่นี้ถูกดัดแปลงจากกระท่อมเล็กๆที่คาดว่าสร้างตั้งแต่ปี 1941> เป็นคาเฟ่นึงที่ปูซานที่เค้าบอกว่ามีคนถ่ายรูปลงอินสตราแกรมเยอะที่สุดเลยอะคิดดู แม้ว่าร้านจะออกแนวญี่ปุ๊นญี่ปุ่น แต่คนเกาหลีก็ช้อบชอบ 55> เมนูขึ้นชื่อคือเมนูนมต่างๆ อร่อยมากก ขวดสวยมาก> ร้านจะแบ่งเป็นสองส่วนคือส่วนในร้านที่ตกแต่งสไตล์วินเทจ อีกส่วนจะแยกกับร้านเป็นโซนด้านหลังที่ดัดแปลงจากบ้านเดิม เป็นปูนเปลือย ส่วนนี้คือดีมากจริง เกาหลีคือตกแต่งคาเฟ่สวยมากอะ ยอมเลย> ร้านนี้เป็นร้านดัง (ม้าก) ที่ปูซานนะฮะ คนเกาหลียังมาเที่ยวกันเลยคิดดู มาปูซานคราวหน้าอย่าลืมแวะมาเด้อ> การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน สถานี Busan ทางออก 7 เดินมาขึ้นรถเมล์ที่ป้ายเลข 03-098 นั่งรถเมล์สาย 22, 38, 52, ลงที่ป้าย Geumsusa station จ้า #wowkorea #globalwowkoreasupporters#wowkoreasupporters#globalwowkorea2019#visitkorea #busan#ktothailand #imagineyourkorea

ไปเที่ยวซองโดกันเถอะ!! พวกเธอออ แพลนเที่ยวเมษากันยังงง ขีดเส้นใต้ตรงนี้! เกาหลีเดือนเมษาบอกเลยว่าน่าเที่ยวที่สุด อากาศก็ดี ตั๋วโปรถูกก็มี ใครเบื่อโซลแล้วก็มาทางนี้ ไปเที่ยวซองโดกันจ้า เป็นอีกเมืองที่อยู่ติดโซลและสวยมาก นี่ชอบมาก เดินทางก็สะดวก เดินเที่ยวก็เพลิน ถ่ายรูปก็สวย ดีงามไปหมด มาค่ะ ตามไปวางแพลนเที่ยวเดือนหน้านี้กันๆๆ เดือนเมษายนบอกเลยว่าเกาหลีน่าเที่ยวสุด ไหนจะดอกพอกก๊ตที่เริ่มบานที่ปูซานหรือจินแฮ ไหนจะ เทศกาลดอกทิวลิปที่เอเวอร์แลนด์ เทศกาลดอกคาโนล่า ดอกอาซาเลีย ในโซล เสื้อผ้าก็ถูกมาก แถมเอามาใส่ที่ไทยได้อีก จองตั๋วมาลงโซลก่อน รับรองไปได้ทุกที่ สะดวกแน่นอน อ่ะ ไปเที่ยวซองโดกัน ! เมษา ฟ้าใส เมฆสวย ที่ซองโด เดือนเมษายนที่เกาหลีใต้ ขอเคลมจากใจเลยแล้วกันค่ะ ว่าอากาศดีมากกก  อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ราว 12~18 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนมาก ไม่หนาวมาก อากาศดีเหมาะแก่การเดินเที่ยวที่ซองโดเป็นอย่างมาก ด้วยตัวเมืองซองโดเองที่เป็นเมืองใหม่ ทำให้ทรรศนิยภาพในการชมวิวคือดี แนะนำจุดชมวิวไปนอนดูก้อนเมฆสวยๆ รับอากาศดีๆที่ซงโดเซ็นทรัลพาร์ค (Songdo Central Park) สวนสาธารณะที่เค้าบอกว่าเหมือนอยู่ที่เซ็นทรัลพาร์คที่นิวยอร์กเอาสี้ จุดถ่ายพอร์ทเทรดที่สวยที่สุด ไหนๆก็ไปเดือนเมษาที่อากาศดี้ดีแล้ว ก็แต่งตัวสวยจัดเต็มไปให้เต็มที่นะเธอ พรอพเพริพต้องขนไปเด้ออ ที่ซองโดจะมีสะพานอยู่อันนึงที่แบบมาถ่ายหนังถ่ายซีรีส์บ่อยมาก เป็นสะพานที่อยู่ใน ซงโดเซ็นทรัลพาร์ค ข้างล่างเป็นแม่น้ำ ข้างหน้าเป็นตึกสวยๆ บอกเลยว่าต้องถ่าย มันเริดมาก ไปเดือนนี้ต้องไปกินจูกูมินะ !! รู้กันป่าว เค้าบอกกันมาว่าเดือนเมษายนเนี่ยปลาหมึกที่เกาหลีจะรสชาติดีที่สุด จริงไม่จริงต้องไปพิสูจน์ อย่างเมนูแนะนำเลยก็คือ จูกูมิ หรือปลาหมึกผัดเผ็ด ในโซลก็มีหลายร้านอยู่ แต่ที่ซองโดก็มีหลายร้านเช่นกัน ปักหมุด ร้าน 송쭈집 แล้วไปกินกันได้เลย วิวกลางคืนที่สวยที่สุดที่ Tri-bowl อย่างที่บอกไปว่าเดือนเมษาอ่ะ อากาศดีมาก เพราะฉะนั้นไม่ต้องรีบกลับกันคะ รอให้แดดร่มลมตกซักหน่อย เมืองนี้ทั้งเมืองจะสวยมากก สวยเหมือนมีงานประดับไฟเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตรงบริเวณ Tri-bowl ที่กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลัษณ์ของเมืองนี้ ที่ถ่ายรูปสวยมากก ดีงามที่สุดด ย้ำอีกทีนอกจากซองโดแล้ว เกาหลีใต้ที่รักของเรายังมีที่เที่ยวอื่นๆในเมืองอื่นๆที่น่าสนใจอีกนะ ใครอยากไปเที่ยวที่ไหนว่ามาเลย แนะนำให้ๆๆ

 20-21 พฤศจิกายน 2561 ที่จะถึงนี้ วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้มีการร่วมมือกับสื่อเกาหลีในประเทศไทย อย่าง SMA Thailand สร้างแคมเปญ Edutainment สุดคูลภายใต้แคมเปญ #มียูยัง ด้วยคอนเซ็ปต์แสบๆกวนๆ ระหว่าง “เด็กนักเรียนหน้าห้อง VS เด็กนักเรียนหลังห้อง”  โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีการปล่อยภาพของ 16 หนุ่มหล่อ จากแคมเปญ #มียูยัง ในสื่อเกาหลี SMA Thailand ทั้งสไตล์เด็กเรียนหน้าห้องและเด็กเรียนหลังห้องให้ใจบางกันมาแล้ว เรียกได้ว่าเรียกเสียงเกรียวกราวได้มากเลยทีเดียว บอกเลยว่าสายเกาอย่างเราคือรักมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์มากขอบอก >< มีปล่อยคลิปเบื้องหลังมาด้วย ตื่นตาตื่นใจมาก โปรดักชั่นไม่ธรรมดาเลย และยังไม่พอ เพราะ คลิปเพลง #มียูยัง กลายมาเป็นกระแสมาแรงใน TikTok  แอพสุดฮอตเกาหลีน่ารักสุดๆ ฉันยังไม่มียู แต่ฉันน่ะมีเธอ อิอิ ดูเอ็มวีสวยๆแล้วจบแล้ว แนะนำเลยนะคะว่าถ้าใครมองหาการเรียนที่เน้นทั้งวิชาการ เด่นทั้งกิจกรรมและไอเดียสร้างสรรค์ ห้ามพลาดงานนี้เด็ดขาด! มาร่วมค้นหาตัวตนกันได้ที่งาน #CIBAOPENHOUSE2018 นี้นะคะ แล้วเจอกันที่งาน Open House ของวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA)มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์  ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 20-21 พฤศจิกายน 2561 นี้นะคะ #มียูยัง #CIBAOPENHOUSE2018 #CIBA #DPU

  Burning มือเพลิง”ความรัก” ทำให้เรามีความหวังแต่บางครั้ง…มันก็บดขยี้เราจนพังพินาศ! จากเรื่องสั้นของ ฮารูกิ มูราคามิ* สู่ผลงานกำกับลือลั่นสนั่นเมืองคานส์ของ อีชางดง (ผู้กำกับ Green Fish, Peppermint Candy, Secret Sunshine, Oasis, Poetry) และการแสดงน่าตื่นตะลึงของ สตีเฟน ยอน, ยูอาอิน, ชอนจงซอ กับเรื่องราวความสัมพันธ์แสนลี้ลับ-หลอกหลอน-ร้อนระอุ ระหว่างหนึ่งหญิง สองชาย และไฟที่แผดเผาทุกอย่าง!(*“มือเพลิง” หรือในชื่อต้นฉบับ Barn Burning คือเรื่องสั้นของมูราคามิ แปลเป็นไทยโดยวิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศารวมอยู่ในหนังสือ “เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้เงียบงัน” โดยสำนักพิมพ์กำมะหยี่) ข้อเท็จจริงสำคัญเกี่ยวกับนักเขียนที่เจ๋งที่สุดในโลกปัจจุบัน “…เป็นไปได้อย่างยิ่งว่า ฮารูกิ มูราคามิ เป็นนักเขียนยอดนิยมที่ประสบความสำเร็จและมีอิทธิพลสูงสุดในโลกปัจจุบัน ชายวัย 60 ผู้นี้มียอดขายหนังสือเป็นล้านๆ เล่มในญี่ปุ่น นิยายเล่มที่ 5 นอร์วีเจียน วูด (ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย) ขายได้มากกว่า 3 ล้าน 5 แสนเล่มในปีแรกที่วางแผง และผลงานของเขาได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ 40 ภาษา และขายดิบขายดีเช่นเดียวกัน อาฟเตอร์ ดาร์ก (ราตรีมหัศจรรย์) นิยายขนาดสั้นเล่มล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว ขายได้ 1 แสนเล่มในช่วงสามเดือนแรก   หนังสือของเขาเป็นเหมือนอาหารญี่ปุ่น คือมีส่วนผสมของความละเอียดอ่อน สุขุมนุ่มละมุน พร้อมกับความแปลกตาน่าพิศวง ความฝันกับความจริงสลับที่ทาง ทุกสิ่งอันหมักบ่มด้วยอารมณ์ขันแบบตลกร้าย อาจารย์เจย์ รูบิน ผู้แปลงานของมูราคามิกล่าวว่า การอ่านหนังสือของมูราคามิเปลี่ยนสมองผู้อ่าน วิธีการมองโลกของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้ โซเฟีย คอปโปลา ผู้กำกับภาพยนตร์, นักเขียน เดวิด มิทเชลล์ และวงดนตรีอเมริกันมากมาย เช่น เฟลมิง ลิปส์   เขาได้รับรางวัล ฟรานซ์ คาฟกา รางวัลเยรูซาเล็ม และอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม…” – บทเกริ่นนำ จาก “10 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับฮารูกิ มูราคามิ” โดย สนพ.กำมะหยี่ (http://gammemagie.blogspot.com/2009/03/blog-post_7585.html?m=1) ยูอาอิน: ซูเปอร์สตาร์กับบทที่ท้ายที่สุดในชีวิต  “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีโอกาสได้รับบทและได้ใช้สไตล์การแสดงแบบนี้ …Burning ถือเป็นจุดเริ่มต้นบทใหม่ในอาชีพของผม”  ยูอาอิน นักแสดงหนุ่มเกาหลีวัย 32 บอกไว้แบบนั้น นั่นย่อมแปลว่า อีจงซู ตัวละครของเขาในหนังเรื่องนี้ จะทำให้เราได้เห็นเขาต่างไปจากผลงานสร้างชื่ออย่าง Sungkyunkwan Scandal (บัณฑิตหน้าใส หัวใจว้าวุ่น), Veteran, The Throne และ Six Flying Dragons (6 มังกรกำเนิดโชซอน) แน่นอน  อีจงซู เป็นหนุ่มบ้านนอกที่เข้าเมืองมาหาเลี้ยงตัวด้วยอาชีพรับจ้างส่งของ ขณะที่อีกด้านก็พยายามสานฝันการเป็นนักเขียน แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อได้พบ ชินแฮมี หญิงสาวเพื่อนเก่าโดยบังเอิญ ชีวิตที่ดูเหมือนเรียบง่ายของเขาก็มีอันต้องพลิกผันไปตลอดกาล  “ตอนเล่นซีรีส์ก่อนหน้านี้ ผมต้องเน้น ‘เล่นใหญ่’ และหลายครั้งการถ่ายทำก็เร่งรีบจนไม่มีเวลาจะมานั่งคิดเรื่องการแสดงอะไรนักหนา แต่จงซูเป็นบทแรกที่ผมจมดิ่งลงไปในตัวละครเพื่อจะเข้าใจเขาให้ลึกซึ้ง จึงมีหลายช่วงทีเดียวที่ทีมงานต้องเข้ามาคอยถามผมว่า ‘เป็นยังไงบ้าง เศร้าอยู่หรือเปล่า’ เพราะผมไม่แสดงอารมณ์ออกมาบนผิวหน้าอย่างโจ่งแจ้ง เนื่องจากจงซูเป็นคนคลุมเครือเช่นเดียวกับตัวละครอื่นๆ ในเรื่อง ทุกคนแสดงออกเพียงเล็กน้อยและเหลือพื้นที่มากมายสำหรับการตีความ มันเป็นบทที่กระตุ้นให้ผมอยากค้นหา และอยากพาตัวเองเข้ามาทดลองครับ” สตีเฟน ยอน : จาก The Walking Dead สู่บทพระเอกเต็มตัวครั้งแรกกับหนังเกาหลีบ้านเกิด หลังอำลาบท เกล็น ในซีรีส์ซอมบี้แห่งยุค สตีเฟน ยอนกังวลมากว่าจะมีงานไหนมาช่วยพลิกภาพของเขาในความทรงจำแฟนๆ ได้บ้าง แต่ไม่ต้องรอนาน โอกาสนั้นก็มาถึงในกลางดึกคืนหนึ่งอย่างยิ่งใหญ่!  “ตอนไปคานส์ปีก่อนเพื่อโปรโมทหนังเรื่อง Okja มีนักข่าวถามว่าผมอยากร่วมงานกับผู้กำกับคนไหนบ้าง ผมตอบว่าก็ต้องอีชางดงสิ เขาเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจและฮีโร่ของผม หนังของเขาช่วยให้เด็กเกาหลีที่โตในอเมริกาอย่างผมเข้าถึงหัวใจและจิตวิญญาณสังคมเกาหลีสมัยใหม่ได้” สตีเฟนบอก โดยนึกไม่ถึงเลยว่าการให้สัมภาษณ์คราวนั้นจะกลายเป็นที่มาของเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นกลางดึกคืนหนึ่ง …

  ยิ่งใกล้วันจะได้เจอกัน เชื่อเลยว่าแฟนคลับชาวไทยยิ่งใจเต้นรัว เพราะนอกจากผู้จัดใจดี “เดอะ ไลม์ (ไทยแลนด์)” จะคอนเฟิร์มพา 2 หนุ่มคู่หูคู่ซี้ SANGGYUN ( ซังกยุน ) และ KENTA ( เคนตะ ) มาเจอแฟนๆ ในงาน 2018 SANGGYUN KENTA FANMEETING IN BANGKOK พวกเขาทั้งสองคนก็ยังไม่หยุดส่งตรงความฟินให้แฟนๆ ที่รอพวกเขาอยู่แบบทุ่มสุดตัว ด้วยการเขียนบอกรัก และคิดถึงเป็นภาษาไทยด้วยตัวเอง โดยหนุ่ม “ซังกยุน” เขียนคำว่า ‘ผมรักคุณ’ ด้าน “เคนตะ” ไม่น้อยหน้าเขียนคำว่า “ผมคิดถึงคุณ” หนุ่มๆ จัดหนักขนาดนี้แล้ว ไม่มาหาไม่ได้แล้ว เพราะการเขียนภาษาไทยเรียกว่าเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น งานวันจริงรับรองว่ามีโมมเม้นต์เด็ดๆ ดีๆ รออยู่อีกเพียบ!! เท่านั้นไม่พอ…สำหรับผู้ที่มีบัตร VVIP แล้วยังจะได้รับลายเซ็นสดๆ จากทั้งสองหนุ่มอย่างใกล้ชิดในกิจกรรมแฟนไซน์ ที่จะจัดขึ้นวันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ ณ ชั้น 5 Helix Garden ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ (The EmQuartier) ตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป และถึงแม้ว่าบัตร VVIP จะหมดอย่างรวดเร็วทันทีที่เปิดขาย แต่ยังมีบัตรราคาอื่นๆ ให้ทุกคนได้มาสัมผัสความน่ารักจาก “ซังกยุน และ เคนตะ” ด้วยตัวเอง ในงาน 2018 SANGGYUN KENTA FANMEETING IN BANGKOK จองบัตรได้ทาง www.thelimethailand.com บัตรราคา 4,900 และ 1,900 บาท ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊คแฟนเพจ https://www.facebook.com/TheLimeThailand/ ช้าหมด…อดเจอกันนะจ๊ะคนดี #SanggyunKentaFMinBKK

ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม หลังผู้จัดใจดี เดอะไลม์ ไทยแลนด์ ( The Lime Thailand ) ประกาศพา 2 หนุ่มคู่ซี้ต่างขั้ว ซังกยุน ( Sanggyun ) และ เคนตะ ( Kenta ) มาเจอแฟนๆ ชาวไทยในงาน “2018 SANGGYUN KENTA FANMEETING IN BANGKOK ” วันที่ 14 กรกฎาคม 2561 ณ แจ้งวัฒนะฮอลล์, เซ็นทรัลพลาซ่าแจ้งวัฒนะ แถมด้วยสิทธิพิเศษแบบแน่นเอี๊ยด นอกจากแฟนๆ ชาวไทยจะตื่นเต้นที่จะได้เป็นหนึ่งในแขกคนสำคัญร่วมสัมผัสความคิดถึงจากทั้ง 2 หนุ่มแล้ว ฝั่ง ซังกยุน และ เคนตะ ก็แฮปปี้ไม่น้อยที่จะได้กลับมาเยือนประเทศไทย และมอบความสุขให้แฟนๆ อีกครั้ง พวกเขาเลยฝากคลิปมาอ้อนแฟนๆ เพื่อย้ำให้รู้ว่าพวกเขาคิดถึงทุกคนจริงๆ โดยเริ่มจากหนุ่มเคนตะ อ้อนกับแฟนๆ ชาวไทยว่า “ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา พวกเราได้ไปเจอแฟนๆ ชาวไทยมาใช่ไหมครับ แต่ว่า..ผมยังรู้สึกไม่เต็มอิ่มเลย เพราะฉะนั้นพวกเราจะไปเจอกับทุกๆคนอีกครั้งครับ” ตามด้วยหนุ่มซังกยุนกล่าวถึงความประทับใจในครั้งที่มาเยือนเมืองไทยว่า “ทุกครั้งที่ไปก็จะได้รับเสียงเชียร์ และความรักจากแฟนๆ ทุกคน มีแต่ความทรงจำที่น่าประทับใจจริงๆ ครับ” และทั้งสองหนุ่มปิดท้ายคลิปด้วยการเชิญชวนแฟนๆ ชาวไทยให้มาเจอกันอีกครั้งในงานแฟนมีตติ้งของพวกเขาที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคมนี้ ที่กรุงเทพ แจ้งวัฒนะฮอลล์! พวกเขาจะเตรียมความสนุกและโชว์สุดพิเศษไว้ให้กับทุกคน!! ขอย้ำอีกครั้ง งานนี้พลาดแล้วพลาดเลย!! งาน 2018 SANGGYUN KENTA FANMEETING IN BANGKOK เปิดจองบัตรวันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายนนี้ ทาง www.thelimethailand.com บัตรราคา 5,800 (VVIP) / 4,900 และ 1,900 บาท และพิเศษสุดๆ ผู้จัด The Lime ใจดีเพิ่มจำนวนบัตร VVIP จาก 200 ที่นั่ง เป็น 250 ที่นั่งอีกด้วย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊คแฟนเพจ https://www.facebook.com/TheLimeThailand/ #SanggyunKentaFMinBKK  

คำถามที่พบบ่อยที่สุดอีกหนึ่งคำถามตั้งแต่เปิดเพจมาคือ .. ไปเทียวเกาหลีไม่กี่วัน ต้องทำประกันเดินทางมั้ยคะ ? … อ่ะ บอกตรงนี้ แนะนำให้ทำค้า เสียเงินแค่หลักร้อยแต่คุ้มครองเป็นล้าน เพราะอะไรๆก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ยิ่งไปต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้ ถ้าเกิดอะไรสุดวิสัยขึ้นมา จะได้มีประกันคอยดูแลนะคะ อ่ะๆที่นี้มาดูกันว่าเวลาเราไปเที่ยวเกาหลี หรือประเทศอื่นๆเนี่ย มันมีเหตุการณ์อะไรบ้างนะ ที่อาจเกิดขึ้นได้ และเหตุการณ์เหล่านี้แหละค่ะ ที่หากเราทำประกันเดินทางเอาไว้ รับรองว่าช่วยได้แน่นอน ! –  เที่ยวบินดีเลย์ หลายคนอาจจะคิดว่าเอ้ย อย่างน้อยก็ดีเลย์นิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอก แต่บอกเลยนะคะ หลายทริปที่เครื่องบินดีเลย์เนี่ยผิดแผนมาเพียบ บางคนไปเกาหลีแพลนลงโซลแล้วต่อไปปูซานเลย หรือไปเมืองอื่นๆ เกิดไฟล์ทดีเลย์มากๆ ทีนี้ยาวเลยนะคะ การทำประกันก็จะช่วยในเรื่องการคุ้มครองการล่าช้าของเที่ยวบินได้ค่ะ – กระเป๋าเดินทางเสียหายระหว่างทริป ที่ไหนๆ หากไม่ระวังก็อันตรายทั้งนั้นนะ ! การทำประกันการเดินทางเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ จะมีการคุ้มครองในกรณีที่เกิดการสูญเสียหรือมีความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง หรือทรัพย์สินส่วนตัวของเราด้วยนะคะ สำหรับคนที่ไม่ค่อยระวังตัว แนะนำให้ทำเลย อย่างน้อยก็ช่วยได้ส่วนหนึ่งแน่นอนค่ะ ป้องกันเอาไว้ก่อน –  เจ็บป่วยกระทันหันหรือเจ็บป่วยหนักในกรณีเดินทางท่องเที่ยว เหตุสุดวิสัยสุดๆเลยเวลาเที่ยวคือป่วยนั่นเอง หลายคนอาจจะบอกว่าฉันแข็งแรงดี สบายมาก แต่บอกเลยนะคะ การเจ็บป่วยที่ว่าไม่ได้หมายถึงเป็นไข้ปวดหัวตัวร้อนนะ แต่รวมถึงอุบัติเหตุต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการท่องเที่ยวค่ะ  ม่าเป็นคนนึงที่เคยลื่นหิมะที่เกาหลีจนได้แผลต้องไปโรงพยาบาลมาแล้ว ถ้าไม่ทำประกันคือจ่ายเงินเองเน้นๆ ไม่ใช้สแตนอิน น้ำตาไหลเลยนะ เพราะการรักษาพยาบาลในต่างประเทศ ค่อนข้างมีราคาสูง ดังนั้นถึงย้ำอีกที่ว่า ทำเถอะค่ะ ช่วยให้อุ่นใจได้จริงๆ ทำประกันออนไลน์ง่ายๆ ได้ทุกที่แค่ 4 ขั้นตอนก่อนออกเดินทาง อย่างทริปเกาหลีล่าสุดคือได้ลองซื้อประกันการเดินทางของ  ซมโปะ ประกันภัย (เป็นบริษัทประกันสัญชาติญี่ปุ่น) ชื่ออาจจะญี่ปุ่นไปซักนิด แต่ไปเที่ยวประเทศไหนๆก็ซื้อได้ค่ะ  ไปเกาหลีก็ซื้อได้ สบายมาก ซื้อได้จนเวลาบอร์ดดิ้งเลยนะ แค่นี้ก็ขึ้นเครื่องได้อย่างสบายใจ คือสะดวกอ่ะ ซื้อออนไลน์ก็แค่ 4 ขั้นตอนเท่านั้น จิ้มซื้อทางโทรศัพท์ไม่ถึงห้านาทีก็เสร็จเรียบร้อย หน้าตาของ  ซมโปะ ประกันภัย ที่เราสามารถซื้ออนไลน์ได้ เข้าไปที่  https://traveljoy.sompo.co.th/ จากนั้นก็กดเลือกประเภทการเดินทางในกรณีที่ไปครั้งเดียวก็เลือกรายเที่ยว ถ้าไปบ่อยก็เลือกรายปีได้เลยคุ้มๆ  จากนั้นก็ระบุประเทศที่จะไปพร้อมวันเดินทาง เค้าก็จะคำนวณแผนประกันเดินทางมาให้ เราก็สามารถเลือกได้ ตามราคาและความครอบคลุมที่แตกต่างกัน               เมื่อกดตกลงสั่งซื้อ ก็สามารถระบุข้อมูลส่วนบุคคลและชำระเงินออนไลน์ได้ทันที ข้อมูลกรมธรรณ์จะถูกส่งมาทางอีเมล์ ไม่ต้องพกเอกสารใดๆให้ยุ่งยาก แค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อยสบายใจหายห่วงไปเที่ยวเกาหลีได้แบบชิลๆแล้วล่ะค่ะ พิเศษสุดๆ ไปเลยสำหรับลูกเพจอาจุมม่าบ้าเกาหลี เพียงกรอกโค้ด AJUMMA ก็รับส่วนลดไปเลย 10% จนถึงสิ้นปี 31 ธ.ค. 61 นี้ รีบๆกันหน่อยสิทธ์มีจำนวนจำกัดจ้า

ไปเกาหลียากไหมคะ ? ไปเที่ยวไหนดีคะ ? ไม่กล้าไป กลัวๆกล้าๆกันอยู่ใช่มั้ยล่ะ วันนี้จุมเลยขอรวบรวมเทคนิค การเตรียมตัวขั้นพื้นฐานสำหรับมือใหม่หัดเที่ยวเกาหลี หรือมือเก่าที่อาจจะหลงๆลืมๆ ว่าเอ้ะ ตกลงนี่เตรียมตัวไปพร้อมยังนะ มาฝากกันจ้า 1. เพราะชีวิตต้องออนไลน์ !! อย่างแรกเลยคือทุกปัญหาแก้ได้ถ้าคุณมีเน็ตดีค่ะ ไม่ว่าจะติดตม. วิธีเขียนใบตม. หาชื่อที่พัก วิธีเดินทางต่างๆนาๆ บางคนแบบ อ้ะ มั่นใจไง ปริ้นท์มาเรียบร้อยแล้ว ปรากฎรีบจ้า วันเดินทางลืมทุกอย่างไว้บ้าน นึกได้อีกทีคือถึงอินชอนแล้ว ตกม้าตายตั้งแต่วิธีเขียนใบตม.จนถึงทางไปที่พักกันเลย ดังนั้นแนะนำให้เตรียมพร้อมไปจากเมืองไทยเลยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวนี้เค้ามีซิมเที่ยวเกาหลีใต้ และประเทศอื่นๆ ชื่อว่า ซิม GO! อินเตอร์ ซิมโรมมิ่งจากดีแทค ถือว่าเป็นซิมที่เลิศมาก ให้อายุการใช้งานนาน 10 วัน พร้อมด้วยอินเตอร์เน็ตเต็มสปีด 4GB ราคา 399 บาทเอง ที่เลิศไปกว่านั้นคือถ้าเน็ตหมด 4GB ก็ยังใช้ต่อได้นะที่ความเร็ว 128 Kbps จากประสบการณ์เรา เน็ต 4GB ใช้พอค่ะ สบายๆ  สัญญาณค่อนข้างดีเลย เชื่อมต่อง่าย มีเพื่อนๆ ที่รู้จักหลายคนเคยใช้ก็บอกว่าคุ้มและดี ที่สำคัญค่ายนี้เค้าให้วันเยอะที่สุดละ แถมก่อนขึ้นเครื่องยังเล่นเน็ตที่ไทยได้ฟรีอีก 6 ชั่วโมง ไม่ต้องคอยเปลี่ยนซิมไปมา สามารถเปลี่ยนซิมรอไว้ก่อนได้ตั้งแต่อยู่ไทย ถ้าใครเปิดใช้ไปแล้วแพ็กเกจยังอยู่ใน 10 วันก็เอาไปใช้ประเทศอื่นต่อได้ สะดวกไปอีก นอกจากใช้เป็นซิมเที่ยวเกาหลีใต้ ยังใช้เป็นซิมเที่ยวญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ รวม 25 ประเทศนะจร้า หาซื้อง่ายได้ที่  dtac Hall ทุกสาขาทั่วประเทศ / สนามบินสุวรรณภูมิ / ดอนเมือง / ภูเก็ต และสมุย และอีกอย่างที่ชอบคือ ถ้าซิมมีปัญหาคือสามารถโทรมาจากเกาหลีได้เลย เค้ามี dtac call center  +662 202-8100 คอยดูแล โทรฟรีจากต่างประเทศ  24 ชั่วโมง ใครสนใจลองไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่เลยค่ะ https://www.dtac.co.th/gointer/ เตรียมตัวให้พร้อมจะได้ไม่ฉุกละหุกนะทุกคน 2. พักที่ไหน แถวไหน ต้องดูให้เคลียร์ !! มาถึงสเตปที่สอง พอผ่านตม. เข้าเมืองมาได้แล้ว สเต็ปต่อไปคือไปที่พักให้ถูกค่ะ ไม่ใช่แค่ อ๋อ พักเมียงดง ฮงแด ค่ะ แล้วจบ แต่ ตรงไหนของฮงแด ตรงไหนของเมียงดง พิกัดต้องเคลียร์นะคะ แนะนำก่อนไป พอรู้ชื่อที่พักแล้ว  ลองเข้า google ดู streetview ซักหน่อย หรือ เข้าเว็บแผนที่ของเกาหลีอย่าง map.daum.net  ใส่ชื่อที่พักลงไปแล้วกดดู   streetview  เดินจากสถานีไกลมั้ย มีจุดสังเกตอะไรบ้าง พอไปถึงจริงๆจะได้ร้อง อ๋อออ ไม่ต้องงมนาน 3.  ยาสำคัญมาก แม้แต่พาราก็ห้ามลืม !! เนี่ยหลายคนเลย ชอบคิดว่าเวลาไปเที่ยว อย่างมากก็แค่ปวดหัวตัวร้อน เดี๋ยวไปซื้อเอาที่นู่นก็ได้ แต่อย่าคิดแบบนั้นค้าา ที่นี่เกาหลี บอกเลยว่า ยาไม่ได้ซื้อง่ายเหมือนไทยน้า ร้านยาก็ไม่ได้หาง่ายเท่าไหร่ แล้วยาบางประเภทที่ไทยสามารถซื้อได้เอง แต่ที่เกาซื้อเองไม่ได้นะคะ ดังนั้นยาที่ขายได้ตามร้านยาทั่วไปจึงไม่ค่อยแรงมากเท่าไหร่ทางที่ดีที่สุดคือพกติดตัวไปจากประเทศไทยเลยดีกว่า เหลือดีกว่าขาดนะ ! 4.  เช็กอากาศให้ดี เตรียมเสื้อผ้าไปให้พอ ใครสายชิลรอจะไปซื้อเสื้อผ้าที่นู่น ได้ค่ะ แต่ แต่ อย่างน้อยก็ต้องมีเสื้อผ้าที่สามารถใส่ได้ 1-2 วันติดไปก่อนนะที่เกาหลีมีเสื้อผ้าขายเยอะก็จริง แต่บางทีเราอาจจะไม่มีเวลาเลือกซื้อ หรือบางวันเกิดฝนตก อากาศหนาวฉับพลันขึ้นมา กว่าจะหาซื้อเสื้อผ้าได้ หนาวจนป่วยไปก่อนก็ไม่เวิร์คนะ สำหรับเว็บพยากรณ์อากาศที่แนะนำของเกาหลี คือ นี่เลย > https://weather.naver.com/ 5 …